มกราคม 30, 2025
Marketing That Should Stop in 2025

ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แนวทางการตลาดที่เคยใช้ได้ผลในอดีต อาจกลายเป็นวิธีที่ไม่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน หลายคนยังคงยึดติดกับสูตรสำเร็จเดิม ๆ โดยหวังว่าจะช่วยสร้างผลลัพธ์ได้เหมือนที่ผ่านมา แต่ความจริงคือพฤติกรรมผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมทางการตลาดได้เปลี่ยนไปแล้ว การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักการตลาดที่ต้องการอยู่รอดและเติบโตในปี 2025

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงสิ่งที่นักการตลาดควรเลิกทำ รวมถึงวิธีคิดและกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้การทำการตลาดในปี 2025 มีประสิทธิภาพและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หยิบกาแฟมาสักแก้วแล้วมาสำรวจไปพร้อมกันว่า อะไรควรหยุดและอะไรควรเริ่มทำ!

ลดจำนวนโพสต์ Facebook แบบออร์แกนิค

ในปี 2025 การโพสต์บน Facebook โดยหวังให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบออร์แกนิค (organic reach) เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าหน้าเพจของคุณจะมีผู้ติดตามหลักหมื่นหรือหลักแสน แต่ตัวเลขการเข้าถึงผู้ชมต่อโพสต์กลับลดลงอย่างน่าตกใจ ปัจจุบัน โพสต์ส่วนใหญ่มียอดเข้าถึงเพียงหลักพันต้น ๆ เท่านั้น ดังนั้น การโพสต์ถี่ ๆ โดยหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี อาจเป็นการเสียเวลาและทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์

ทางออกที่ดีกว่าคือการโพสต์น้อยลง แต่เพิ่มคุณภาพและความน่าสนใจในแต่ละโพสต์ และควรวางแผนโฆษณาควบคู่ไปด้วยทุกครั้งเพื่อเพิ่มการเข้าถึง การโพสต์เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์พร้อมการสนับสนุนด้วยโฆษณา จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการโพสต์ถี่ ๆ แบบไม่มีแผน

หยุดทำ Value Content แบบเดิม ๆ

การทำ Value Content หรือคอนเทนต์ให้ความรู้ เคยเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ในปัจจุบัน คอนเทนต์ลักษณะนี้กลายเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ทำได้ง่าย ๆ เพราะมีคอร์สสอนวิธีคิดและการสร้าง Value Content มากมาย จนทำให้ผู้บริโภครู้สึกเบื่อและมองว่าไม่จริงใจ

ในปี 2025 แทนที่จะมุ่งสร้างคอนเทนต์ให้ความรู้แบบเดิม ลองเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ Gorilla Marketing ที่เน้นสร้างความตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจจากผู้ชม วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนอยากพูดคุยและแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ ตัวอย่างเช่น การสร้างแคมเปญที่มี interactivity ให้ผู้ชมมีส่วนร่วม หรือกิจกรรมที่ทำให้คนรู้สึกสนุกและอยากบอกต่อ

ปรับการทำการตลาดให้เหมาะกับชุมชนเป้าหมาย

การสร้าง Community Flywheel เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ควรนำมาใช้ในปี 2025 โดยเน้นการเจาะกลุ่มชุมชนที่มีความสนใจเฉพาะทาง เช่น กลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มคนชอบเทคโนโลยี เป็นต้น การทำการตลาดในลักษณะนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย

วิธีการคือ คุณต้องเลือกกลุ่มชุมชนที่ต้องการเจาะเป้าหมายอย่างชัดเจน จากนั้นสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความสนใจของคนในกลุ่มนั้น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องโปรโมทสินค้าหรือบริการมากเกินไป แต่ควรมีสินค้าหรือบริการฮีโร่ (Hero Product) ที่ช่วยดึงดูดความสนใจ และทำให้การซื้อเป็นเรื่องง่ายที่สุด

เลิกขายความพรีเมียมแบบเดิมในช่วงเทศกาล

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การตลาดที่เน้นขายความพรีเมียมหรือความหรูหราในช่วงเทศกาลอาจไม่ใช่แนวทางที่ได้ผลอีกต่อไป ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากกว่าความหรูหรา ดังนั้น การตลาดในช่วงเทศกาลควรมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษที่ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกว่า “คุ้มค่า” และ “ตัดสินใจซื้อได้ง่าย”

ตัวอย่างเช่น การจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 หรือส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกว่าพวกเขาได้รับความคุ้มค่า และเป็นการกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ให้ความสำคัญกับการตลาดแบบมีส่วนร่วม (Interactive Marketing)

ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้ต้องการแค่คอนเทนต์ที่ดี แต่พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ การตลาดแบบ Interactive Marketing จึงเป็นกลยุทธ์ที่ควรลงทุนในปี 2025 เช่น การจัดกิจกรรมในโซเชียลมีเดียที่ให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการโหวต การแสดงความคิดเห็น หรือการร่วมเล่นเกมที่มีของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ

ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ การสร้างแคมเปญที่ให้ผู้ชมออกแบบสินค้าหรือเลือกสีใหม่ ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ วิธีนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมในความสำเร็จของแบรนด์

ปี 2025 เป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับนักการตลาด การยึดติดกับแนวทางเดิม ๆ ที่เคยได้ผล อาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป สิ่งสำคัญคือการปรับตัวและเลือกใช้กลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนโพสต์ Facebook การเลิกทำ Value Content แบบซ้ำซาก การสร้าง Community Flywheel หรือการเน้นการตลาดแบบ Interactive ทุกกลยุทธ์ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและเป็นที่จดจำในตลาดที่มีการแข่งขันสูง