พฤศจิกายน 7, 2024
plastic use

พลาสติกเป็นวัสดุที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ตั้งแต่ที่เราเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำพลาสติก ดื่มกาแฟในแก้วพลาสติก หรือใช้ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุของซื้อของขาย พลาสติกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราทุกคนอย่างแยกไม่ออก ความหลากหลายของวิธีใช้งานพลาสติกนั้นสะท้อนถึงคุณสมบัติที่พิเศษของมัน ไม่ว่าจะเป็นความเบา ความแข็งแรง ความทนทาน และความสามารถในการปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้งาน

ถึงแม้พลาสติกจะเป็นสิ่งที่พบเจอได้ทั่วไป แต่มีน้อยคนนักที่จะเข้าใจลึกซึ้งว่าพลาสติกเหล่านี้มีที่มาจากอะไร และกระบวนการที่อยู่เบื้องหลังการสร้างพลาสติกนั้นมีความซับซ้อนเพียงใด ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับวัตถุดิบที่เป็นรากฐานของวิธีผลิตพลาสติก กระบวนการทางเคมีที่ใช้ในการสร้างพลาสติกแต่ละประเภท และคุณสมบัติที่ทำให้พลาสติกเป็นวัสดุที่สำคัญในโลกยุคปัจจุบัน

นอกจากนั้น เรายังจะสำรวจถึงประเภทต่าง ๆ ของพลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน รวมถึงการปรับปรุงคุณสมบัติของพลาสติกเพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานในแต่ละด้าน ความรู้เหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของพลาสติกมากขึ้น และสามารถใช้พลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคต

พลาสติกไม่ใช่เพียงแค่วัสดุที่ทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของมนุษย์ มาทำความรู้จักกับพลาสติกและเข้าใจถึงเบื้องหลังของวัสดุที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเรายิ่งขึ้นกันดีกว่าในบทความนี้

Crude Oil ปิโตรเลียม

วัตถุดิบในการผลิตพลาสติก

พลาสติกเป็นสารเคมีที่เรียกว่า “โพลิเมอร์” ซึ่งประกอบด้วยโมเลกุลขนาดใหญ่ที่เกิดจากการเชื่อมต่อของหน่วยย่อย ๆ ที่เรียกว่า “โมโนเมอร์” โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตพลาสติกส่วนใหญ่ได้มาจากปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหิน สารเหล่านี้จะถูกนำมาผ่านกระบวนการเคมีเพื่อสังเคราะห์โมโนเมอร์ที่เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตพลาสติก

กระบวนการผลิตพลาสติก

เมื่อเราได้โมโนเมอร์แล้ว กระบวนการต่อไปคือการสร้างโพลิเมอร์หรือที่เรียกว่า “กระบวนการโพลิเมอไรเซชัน” (Polymerization) ซึ่งเป็นกระบวนการที่โมโนเมอร์จะเชื่อมต่อกันเป็นสายยาว ๆ เกิดเป็นโพลิเมอร์ หลังจากนั้นจะนำโพลิเมอร์เหล่านี้ไปผ่านกระบวนการผลิตเพิ่มเติม เพื่อให้ได้พลาสติกที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ

ประเภทของพลาสติก

พลาสติกสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะของโพลิเมอร์ที่ใช้ ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างของพลาสติกที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

โพลีเอทิลีน (Polyethylene, PE)

โพลีเอทิลีนเป็นพลาสติกที่ใช้กันมากที่สุดในโลก ทำจากเอทิลีน (Ethylene) มักพบในผลิตภัณฑ์เช่น ถุงพลาสติก ขวดน้ำ และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ

โพลีโพรพิลีน (Polypropylene, PP)

พลาสติกชนิดนี้ทำจากโพรพิลีน (Propylene) มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี ใช้ในการผลิตถุงพลาสติก กล่องอาหาร และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์

โพลีสไตรีน (Polystyrene, PS)

ทำจากสไตรีน (Styrene) ใช้ในการผลิตแก้วโฟม บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง

พีวีซี (Polyvinyl Chloride, PVC)

ทำจากไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride) ใช้ในการผลิตท่อน้ำ สายไฟ และวัสดุก่อสร้าง

การปรับปรุงคุณสมบัติของพลาสติก

พลาสติกที่เราใช้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่เพียงแค่โพลิเมอร์บริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีการเติมสารเติมแต่งต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของพลาสติกให้ตรงกับความต้องการในการใช้งาน เช่น การเพิ่มความแข็งแรง ทนต่อแสงแดด หรือเพิ่มความยืดหยุ่น

plastic pigment

พลาสติกเป็นวัสดุที่มีความหลากหลายและมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา การทำความเข้าใจถึงวัตถุดิบและกระบวนการผลิตพลาสติกจะช่วยให้เราเห็นคุณค่าและความสำคัญของวัสดุชนิดนี้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้พลาสติกอย่างมีสติและพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรตระหนักถึงเสมอ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับพลาสติก

พลาสติกสร้างจากโพลิเมอร์ซึ่งเป็นสารประกอบที่เกิดจากการเชื่อมต่อของโมโนเมอร์ โดยวัตถุดิบหลักในการผลิตโพลิเมอร์ได้มาจากปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหิน

กระบวนการผลิตพลาสติกเริ่มจากการสังเคราะห์โมโนเมอร์จากวัตถุดิบหลัก แล้วนำเข้าสู่กระบวนการโพลิเมอไรเซชันเพื่อสร้างโพลิเมอร์ จากนั้นโพลิเมอร์จะถูกนำไปผ่านกระบวนการผลิตเพิ่มเติม เช่น การฉีดขึ้นรูปหรือการอัดขึ้นรูป เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์พลาสติกตามต้องการ

ไม่ใช่พลาสติกทุกประเภทที่สามารถรีไซเคิลได้ พลาสติกบางประเภท เช่น PE และ PP สามารถรีไซเคิลได้ง่าย ในขณะที่บางประเภท เช่น PS และ PVC อาจรีไซเคิลได้ยากหรือต้องใช้กระบวนการพิเศษ

พลาสติกที่ใช้ในการบรรจุอาหารมักจะได้รับการทดสอบและรับรองว่าไม่ปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่ออาหาร อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกเก็บอาหารที่มีความร้อนสูงหรือเก็บไว้นานเกินไป

พลาสติกมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเมื่อถูกทิ้งอย่างไม่เหมาะสม การย่อยสลายของพลาสติกในธรรมชาติใช้เวลานานหลายร้อยปี และสามารถสร้างมลพิษในดินและน้ำได้ การใช้พลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบและการรีไซเคิลจึงมีความสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ในอนาคต พลาสติกจะยังคงมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่จะมีการเน้นไปที่การพัฒนาและใช้งานพลาสติกที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น